คำถามที่ถามบ่อย (FAQ)

The Financial Commission / คำถามที่ถามบ่อย (FAQ)

คำถามที่ถามบ่อยสำหรับลูกค้า

[dropdown_box expand_text=”คณะกรรมาธิการการเงินคืออะไร” start=”hide”]คณะกรรมาธิการการเงินคือคณะกรรมการทางเลิกและเป็นอิสระ ในการแก้ไขปัญหาสำหรับเทรดเดอร์ ที่ต้องการความช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทกับโบรเกอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการการเงิน

คณะกรรมาธิการการเงินตั้งขึ้นเพื่อสร้างแนวทางใหม่ในการไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างโบรกเกอร์และลูกค้าที่อาจเกิดขึ้นได้ในขั้นตอนการซื้อขายในตลาดฟอเรกซ์ และ CFD

คณะกรรมาธิการการเงินพิจารณาในมุมกว้างของการเรียกร้องสิทธิ์โดยไม่ขึ้นอยู่กับยอดเงินของการเรียกร้อง เรามองความคุ้มครองแก่เทรดเดอร์ เพื่อให้พวกเขามั่นใจว่าโบรกเกอร์ได้ให้บริการแก่พวกเขาอย่างโปร่งใส ในอีกทางหนึ่งเราก็ให้โอกาสในฐานะบุคคลที่สาม ตอบทุกคำถามการเรียกร้องสิทธิ์ที่ไม่เป็นธรรมแก่โบรกเกอร์.
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”จุดมุ่งหมายหลักของคณะกรรมาธิการคืออะไร” start=”hide”]

คณะกรรมาธิการได้ตั้งปณิธานไว้ดังต่อไปนี้ แสดงตนอย่างเป็นกลาง ให้การพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ที่เป็นธรรม นำเสนอวิธีการในการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ที่รวดเร็วและง่ายดาย กว่าการพิจารณาผ่านหน่วยงานในพื้นที่และศาล.
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”เกิดอะไรขึ้นเมื่อลูกค้ายื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์แก่คณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”]

เมื่อได้การคำร้องเรียกร้องสิทธิ์ คณะกรรมาธิการจะทำการตรวจสอบว่า การพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าวของโบรกเกอร์ถูกต้องแล้วหรือไม่.

ตามบัญญัติของคณะกรรมาธิการการเงิน สมาชิกทั้งหมดจำเป็นต้องมีขั้นตอนภายในในการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ และมีผู้แทนบริษัท ที่รับผิดชอบการเรียกร้องสิทธิ์และติดต่อสื่อสารกับคณะกรรมาธิการ.

บัญญัติคณะกรรมาธิการต่อขั้นตอนภายในในการพิจารณาเรียกร้องสิทธิ์ กำหนดให้สมาชิกเสนอคำตอบต่อการเรียกร้องสิทธิ์ภายใน 10 วัน ในคำตอบต่อการเรียกร้องสิทธิ์จำเป็นจะต้องมี:

  • รายละเอียดคำตอบขอบการเรียกร้องสิทธิ์
  • ในกรณีที่จำเป็น ต้องมีจำนวนของยอดเงินชดเชย หรือ
  • คำปฏิเสธในการยอมรับการเรียกร้องสิทธิ์ รวมทั้งข้อโต้แย้งในการปฏิเสธ

หากลูกค้าได้ผ่านกระบวนการภายในในการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ของโบรกเกอร์แล้ว แต่ข้อเสนอการแก้ปัญหาไม่เป็นที่น่าพอใจ เขามีสิทธิ์ที่จะยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์กับคณะกรรมาธิการการเงิน.
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”คณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาททำงานอย่างไรกันแน่” start=”hide”]เมื่อได้รับการยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์ หัวหน้าคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาทจะทำการตรวจสอบ ว่าขั้นตอนที่จำเป็นในการตัดสินการเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าวได้รับอย่างถูกต้องแล้ว และลูกค้าได้ติดต่อเรื่องการเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าวกับโบรกเกอร์ของตนแล้ว หากลูกค้าและโบรกเกอร์ไม่สามารถตัดสินปัญหาดังกล่าวได้ด้วยตนเอง การเรียกร้องสิทธิ์จะถูกพิจารณาต่อโดยคณะกรรมการ

คณะกรรมการสอบถามข้อมูลที่จำเป็นจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงข้อโต้แย้งถึงสาเหตุที่การเรียกสิทธิ์ต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการ เมื่อคณะกรรมการได้รับข้อมูลที่จำเป็นในการพิจารณาครบถ้วนแล้ว การเรียกร้องสิทธิ์จะได้รับการตรวจสอบ คณะกรรมการจะให้คำตัดสินต่อการเรียกร้องสิทธิ์ พร้อมคำอธิบายรายละเอียดข้อสรุปแก่ทั้งลูกค้าและโบรกเกอร์.
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”คณะกรรมการเป็นอิสระจากโบรกเกอร์และองค์กรทางกฏหมายหรือไม่” start=”hide”]ข้อตอนการรับคำตัดสินและการบริหารการจัดการคณะกรรมการนั้นเป็นอิสระเต็มที่จากสมาชิกของตน (โบรกเกอร์)

คณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท:

  • รับผิดชอบโดยสมบูรณ์ในการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์และตัดสินพวกมัน และยัง
  • แจ้งรายงานผลไปยังสภาผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการเท่านั้น

สภาผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการการเงินตอบคำถามการควบคุมดูแลการดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท ต้องมีการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์อย่างโปร่งใส และเป็นอิสระจากคณะกรรมาธิการการเงิน

เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว จึงยกเว้นความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น โดยสภาผู้อำนวยการจะต้องมีผู้บริหารที่เป็นอิสระและไม่มีบริษัทโบรกเกอร์

คณะกรรมาธิการการเงินและคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาทไม่มีความรู้สัมพันธ์กับบริษัทโบรกเกอร์ใด ๆ และไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กรทางกฏหมายใด ๆ.
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”คณะกรรมาธิการการเงินเผยแพร่คำตัดสินของตนหรือไม่” start=”hide”]คำตัดสินการเรียกร้องสิทธิ์จะถูกส่งไปยังลูกค้าและโบรกเกอร์ และไม่มีการเผยแพร่บนหน้าเว็บไซด์ ยกเว้นในกรณีที่โบรกเกอร์ปฏิเสธไม่ทำตามคำตัดสินของคณะกรรมาธิการ.

[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”ยอดขั้นต่ำในการยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์คือเท่าไหร่” start=”hide”]คณะกรรมาธิการการเงินไม่กำหนดยอดเงินขั้นต่ำในการยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธ์ ถึงกระนั้นการเรียกร้องสิทธิ์ที่มียอดต่ำกว่า 250 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จะพิจารณาด้วยสมาชิกของคณะกรรมการเพียงหนึ่งคนเท่านั้น การเรียกร้องสิทธิ์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 250 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จะได้รับการพิจารณาจากสมาชิกคณะกรรมการอย่างน้อยสามคน.
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”กองทุนชดเชยคืออะไรและทำงานอย่างไร” start=”hide”]กองทุนชดเชยเป็นกองทุนประกันสำหรับลูกค้า ยอดเงินของกองทุนจะถูกเก็บไว้ในบัญชีธนาคารต่างหาก และจะนำออกมาใช้ก็ต่อเมื่อสมาชิกปฏิเสธที่จะทำตามคำตัดสินของของคณะกรรมาธิการในส่วนของการเรียกร้องสิทธิ์ของลูกค้า.

กองทุนชดเชยนี้มาจากคณะกรรมาธิการการเงิน โดยแบ่ง 10% จากค่าสมาชิกรายเดือนเข้าสู่กองทุน กองทุนชดเชยครอบคลุมเพียงการตัดสินในวงเงิน 20,000€ สำหรับลูกค้าหนึ่งคนจากบริษัท-สมาชิก ประเภท A และในวงเงินไม่เกิน 5000€ สำหรับลูกค้าหนึ่งคนจากบริษัท-สมาชิก ประเภท B

กองทุนชดเชยใช้ในการจ่ายค่าชดเชยตามการเรียกร้องสิทธิ์ที่ได้รับการพิจารณาโดย๕คณะกรรมาธิการเท่านั้น หากยอดเงินไม่เพียงพอเนื่องจากมีผู้ยื่นเรียกร้องสิทธิ์ไม่พึงประสงค์ต่อบริษัท-สมาชิกจำนวนมาก ยอดที่มีในขณะนั้นจะถูกแบ่งให้แก่ผู้ยื่นคำร้องทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน
[/dropdown_box]

คำถามที่ถามบ่อยสำหรับสมาชิก

[dropdown_box expand_text=”คณะกรรมาธิการการเงินคืออะไร” start=”hide”]คณะกรรมาธิการการเงินคือคณะกรรมการทางเลิกและเป็นอิสระ ในการแก้ไขปัญหาสำหรับเทรดเดอร์ ที่ต้องการความช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทกับโบรเกอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการการเงิน.

คณะกรรมาธิการการเงินตั้งขึ้นเพื่อสร้างแนวทางใหม่ในการไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างโบรกเกอร์และลูกค้าที่อาจเกิดขึ้นได้ในขั้นตอนการซื้อขายในตลาดฟอเรกซ์ และ CFD

คณะกรรมาธิการการเงินพิจารณาในมุมกว้างของการเรียกร้องสิทธิ์โดยไม่ขึ้นอยู่กับยอดเงินของการเรียกร้อง เรามองความคุ้มครองแก่เทรดเดอร์ เพื่อให้พวกเขามั่นใจว่าโบรกเกอร์ได้ให้บริการแก่พวกเขาอย่างโปร่งใส ในอีกทางหนึ่งเราก็ให้โอกาสในฐานะบุคคลที่สาม ตอบทุกคำถามการเรียกร้องสิทธิ์ที่ไม่เป็นธรรมแก่โบรกเกอร์.
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”ทำไมฉันจะต้องเข้าร่วมกับคณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”]เข้าร่วมกับคณะกรรมาธิการการเงินแล้วคุณจะได้รับเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมความเสี่ยง และยังสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าต้องการทำการซื้อขายในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและโปร่งใส ซึ่งมีความเท่าเทียมกันในทุกฝ่าย การเข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการการเงิน คือโอกาสในการชี้แจงอย่างเปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและมีมาตรฐานที่สูงของคุณ และยังมีความพร้อมที่จะเปิดตัดสินทุกคำถามกับลูกค้า

ลูกค้าของคุณจะได้รับการเข้าถึงที่เป็นอิสระและเป็นมืออาชีพในอุตสาหกรรมการเงิน ที่ช่วยแก้ไขปัญหาพิพาทใด ๆ ที่ไม่เป็นธรรม

ในการเป็นสมาชิกคุณจะได้รับเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ความคิดเห็นด้านลบในอินเตอร์เน็ต การตัดสินการเรียกร้องสิทธิ์ผ่านคณะกรรมการอิสระของคณะกรรมาธิการการเงิน มีสิทธิประโยชน์ในด้านการเงิน ง่ายกว่าและเร็วกว่ามาก เมื่อเทียบกับการตัดสินข้อพิพาทในศาล
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”จุดมุ่งหมายหลักของคณะกรรมาธิการคืออะไร” start=”hide”]คณะกรรมาธิการได้ตั้งปณิธานไว้ดังต่อไปนี้ แสดงตนอย่างเป็นกลาง ให้การพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ที่เป็นธรรม นำเสนอวิธีการในการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ที่รวดเร็วและง่ายดาย กว่าการพิจารณาผ่านหน่วยงานในพื้นที่และศาล
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”บริษัทจำเป็นต้องได้รับความควบคุมโดยใครก็ตามเพื่อที่จะเข้าร่วมกับคณะกรรมาธิการการเงินหรือไม่” start=”hide”]ไม่ บริษัทไม่จำเป็นต้องได้รับความควบคุม อย่างไรก็ตามบริษัทมีความจำเป็นจะต้องยื่นคำร้องเพื่อเข้าเป็นสมาชิกและผ่านการตรวจสอบประวัติและการดำเนินงาน สมาชิกจะได้รับการรับรองจากสภาผู้อำนวยการและฝ่ายควบคุม.
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”ส่งเอกสารอย่างไร เพื่อเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”]เพื่อจะยื่นคำร้อง กรุณากรอกข้อมูลในส่วนของคำร้องเพื่อเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการการเงิน เพื่อรับสำเนาใบคำร้องทางที่อยู่อีเมลล์ คุณสามารถติดต่อได้ที่ [email protected]
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”เกิดอะไรขึ้น หลังจากที่คุณยื่นคำรองเพื่อเป็นสมาชิก” start=”hide”]หลังจากใบคำร้องของคุณได้ถูกส่งมาถึงแล้ว มันจะถูกดำเนินการภายใน 21 วันทำการ คุณจะได้รับการแจ้งจากสภาผู้อำนวยการของเรา และคุณได้รับหมายเลขสมาชิก หลังจากได้รับการยืนยันแล้ว แพคเพจร้อนรับพร้อมหลักฐานการเป็นสมาชิกจะถูกส่งไปให้คุณ
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”มีค่าธรรมเนียมใดบ้าง สำหรับการเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”]

  • สมากชิกทั้งหมดจะต้องยื่นคำร้องความเป็นสมาชิกที่คณะกรรมาธิการการเงินพร้อมค่าสมัครเป็นจำนวน 500$ ค่าใช้จ่ายตรงนี้เพื่อดำเนินการคำร้องของคุณ และทำการตรวจสอบประวัติและการดำเนินงานของบริษัท
  • ระยะเวลาการเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการการเงินขั้นต่ำคือ 1 ปี
  • หลังจากคำร้องการเข้าเป็นสมาชิกได้รับพิจารณาแล้ว ในฐานะสมาชิกใหม่ของคณะกรรมาธิการการเงิน คุณจะเป็นต้องจ่ายค่าสมาชิก
    • ค่าสมาชิกจำเป็นต้องจ่ายหลังค้าร้องได้รับการอนุมัติแล้ว เป็นจำนวนสองครั้ง ต่อปี
    • คณะกรรมาธิการการเงินแบ่งสมาชิกของตนเป็นสองประเภท เพื่อรับสำเนาเอกสารเงื่อนไขสมาชิกทางที่อยู่อีเมลล์ กรุณาติดต่อที่ [email protected]
  • ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
    • จากส่วนของสมาชิกและค่าธรรมเนียมสมาชิกแล้ว จำนวนการเรียกร้องสิทธิ์ที่มาจากบริษัทของคุณ มีจำนวนจำกัดในรายเดือน (ประเภท B) หรือไม่มีจำนวนจำกัด (ประเภท A) ในกรณีที่จำนวนการเรียกร้องสิทธิ์จากบริษัทของคุณในหนึ่งเดือนมากกว่าจำนวนที่จำกัดในหนึ่งเดือน จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับทุกการเรียกร้องสิทธิ์ที่เกินมา
  • การจ่ายค่าธรรมเนียม
    • ทุกค่าธรรมเนียมจะต้องจ่ายโดยการโอนผ่านธนาคาร คณะกรรมาธิการไม่รับการจ่ายผ่านบัตรเครดิต ใบสั่งจ่ายส่วนบุคคล หรือใบสั่งจ่ายส่วนร่วม และไม่รับการจ่ายใด ๆ จากบุคคลที่สาม

[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”เกิดอะไรขึ้นเมื่อลูกค้ายื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์แก่คณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”]เมื่อได้การคำร้องเรียกร้องสิทธิ์ คณะกรรมาธิการจะทำการตรวจสอบว่า การพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าวของโบรกเกอร์ถูกต้องแล้วหรือไม่

ตามบัญญัติของคณะกรรมาธิการการเงิน สมาชิกทั้งหมดจำเป็นต้องมีขั้นตอนภายในในการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ และมีผู้แทนบริษัท ที่รับผิดชอบการเรียกร้องสิทธิ์และติดต่อสื่อสารกับคณะกรรมาธิการ

บัญญัติคณะกรรมาธิการต่อขั้นตอนภายในในการพิจารณาเรียกร้องสิทธิ์ กำหนดให้สมาชิกเสนอคำตอบต่อการเรียกร้องสิทธิ์ภายใน 10 วัน ในคำตอบต่อการเรียกร้องสิทธิ์จำเป็นจะต้องมี:

  • รายละเอียดคำตอบขอบการเรียกร้องสิทธิ์
  • ในกรณีที่จำเป็น ต้องมีจำนวนของยอดเงินชดเชย หรือ
  • คำปฏิเสธในการยอมรับการเรียกร้องสิทธิ์ รวมทั้งข้อโต้แย้งในการปฏิเสธ

หากลูกค้าได้ผ่านกระบวนการภายในในการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์ของโบรกเกอร์แล้ว แต่ข้อเสนอการแก้ปัญหาไม่เป็นที่น่าพอใจ เขามีสิทธิ์ที่จะยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์กับคณะกรรมาธิการการเงิน

[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”คณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาททำงานอย่างไรกันแน่” start=”hide”]

เมื่อได้รับการยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์ หัวหน้าคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาทจะทำการตรวจสอบ ว่าขั้นตอนที่จำเป็นในการตัดสินการเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าวได้รับอย่างถูกต้องแล้ว และลูกค้าได้ติดต่อเรื่องการเรียกร้องสิทธิ์ดังกล่าวกับโบรกเกอร์ของตนแล้ว หากลูกค้าและโบรกเกอร์ไม่สามารถตัดสินปัญหาดังกล่าวได้ด้วยตนเอง การเรียกร้องสิทธิ์จะถูกพิจารณาต่อโดยคณะกรรมการ คณะกรรมการสอบถามข้อมูลที่จำเป็นจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงข้อโต้แย้งถึงสาเหตุที่การเรียกสิทธิ์ต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการ

เมื่อคณะกรรมการได้รับข้อมูลที่จำเป็นในการพิจารณาครบถ้วนแล้ว การเรียกร้องสิทธิ์จะได้รับการตรวจสอบ

คณะกรรมการจะให้คำตัดสินต่อการเรียกร้องสิทธิ์ พร้อมคำอธิบายรายละเอียดข้อสรุปแก่ทั้งลูกค้าและโบรกเกอร์

[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”คณะกรรมการเป็นอิสระจากโบรกเกอร์และองค์กรทางกฏหมายหรือไม่” start=”hide”]ข้อตอนการรับคำตัดสินและการบริหารการจัดการคณะกรรมการนั้นเป็นอิสระเต็มที่จากสมาชิกของตน (โบรกเกอร์) คณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท:

  • รับผิดชอบโดยสมบูรณ์ในการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์และตัดสินพวกมัน และยัง
  • แจ้งรายงานผลไปยังสภาผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการเท่านั้น

สภาผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการการเงินตอบคำถามการควบคุมดูแลการดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท ต้องมีการพิจารณาการเรียกร้องสิทธิ์อย่างโปร่งใส และเป็นอิสระจากคณะกรรมาธิการการเงิน

เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว จึงยกเว้นความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้น โดยสภาผู้อำนวยการจะต้องมีผู้บริหารที่เป็นอิสระและไม่มีบริษัทโบรกเกอร์

คณะกรรมาธิการการเงินและคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาทไม่มีความรู้สัมพันธ์กับบริษัทโบรกเกอร์ใด ๆ และไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับองค์กรทางกฏหมายใด ๆ
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”จะเกิดอะไรขึ้น หากฉันไม่ตอบการเรียกร้องสิทธิ์ของลูกค้า” start=”hide”]หากในอนาคตสมาชิกคณะกรรมาธิการ ไม่ให้คำตอบการเรียกร้องสิทธิ์ภายใน 5 วัน การตัดสินจะถูกส่งต่อให้คณะกรรมาธิการการเงิน คณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาทจะตัดสินการเรียกร้องสิทธิ์โดยคุณไม่มีส่วนร่วม ดังนั้นผลการตัดสินอาจจะออกมาไม่เป็นผลดีแก่คุณได้
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”จำเป็นหรือไม่ ที่ฉันจะต้องยอมรับการตัดสินของคณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”]การตัดสินของคณะกรรมาธิการการเงินจำเป็นต่อลูกค้าก็ต่อเมื่อลูกค้ายอมรับมัน หากลูกค้าไม่ยอมรับการตัดสินของวคณะกรรมาธิการการเงิน เขามีสิทธิ์ที่จะขอการตัดสินที่เป็นธรรมใด ๆ ก็ตามที่เขาสามารถได้รับในศาล หรือหน่วยงานอื่น

การตัดสินของคณะกรรมาธิการการเงินถือเป็นความจำเป็นของสมาชิก เมื่อผู้เรียกร้องยอมรับผลการตัดสินของคณะกรรมาธิการการเงินเท่านั้น ผู้ร้องจำเป็นต้องเซ็นเอกสารที่แสดงว่าเขายอมรับผลการตัดสินของคณะกรรมาธิการการเงิน ในกรณีที่เขาได้รับค่าชดเชย เขาจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเรียกร้องสิทธิ์อื่น ๆ ทั้งจากสถาบันกฎหมายอื่น และหน่วยงานราชการ

[/dropdown_box][dropdown_box expand_text=”จะทำอย่างไรถ้าฉันไม่ยอมรับการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”]หากคุณไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของคณะกรรมาธิการการเงิน คุณสามารถยื่นคำร้องได้ คำร้องจะต้องประกอบไปด้วยข้อมูลใหม่หรือแสดงถึงการละเมิดพื้นฐานของขั้นตอนการพิจารณาเรียกร้องสิทธิ์ คำร้องสามารถยื่นได้ภายใน 10 หลังการประกาศผล

คำร้องจะถ5กพิจารณาโดยผู้บริหารคณะกรรมาธิการและการตัดสินสุดท้ายจะรู้ผลใน 5 วัน การตัดสินดังกล่าวไม่สามารถโต้แย้งได้ และทุกฝ่ายจำเป็นต้องยอมรับการตัดสินใจ
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันไม่ยอมรับการตัดสินที่กระทำโดยคณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”] หากคุณไม่ยอมรับผมการตัดสินของคณะกรรมาธิการการเงิน คุณสามารถส่งคำร้องถึงหัวหน้าฝ่ายคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท และแสดงข้อมูลใหม่เพิ่มเติมที่อาจจะเปลี่ยนผลการตัดสินได้ หรือข้อผิดพลาดของขั้นตอนการพิจารณาเรียกร้องสิทธิ์ หากคุณปฏิเสธที่จะยอมรับผลการตัดสิน หรือการกระทำที่เกียวข้องกับการตัดสินของคณะกรรมาธิการ สถานะการเป็นสมาชิกขอวคนจะถูกพิจารณาอีกครั้ง

[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”จะทำอย่างไรหากฉันมีข้อโต้แย้งกับคณะกรรมาธิการการเงิน” start=”hide”] ทุกข้อโต้แย้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินการเรียกร้องสิทธิ์ ที่เกิดขึ้นกับคุณและคณะกรรมาธิการการเงิน สามารถชี้แจงต่อผู้บริหารคณะกรรมาธิการการเงินเพื่อทำการตรวจสอบได้ ดังที่แจ้งไปแล้ว ทุกข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาทจะต้องแจ้งและไกล่เกลี่ยผ่านหัวหน้าฝ่ายคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท

[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”คณะกรรมาธิการการเงินเผยแพร่คำตัดสินของตนหรือไม่” start=”hide”]คำตัดสินการเรียกร้องสิทธิ์จะถูกส่งไปยังลูกค้าและโบรกเกอร์ และไม่มีการเผยแพร่บนหน้าเว็บไซด์ ยกเว้นในกรณีที่โบรกเกอร์ปฏิเสธไม่ทำตามคำตัดสินของคณะกรรมาธิการ
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”ยอดขั้นต่ำในการยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์คือเท่าไหร่” start=”hide”]คณะกรรมาธิการการเงินไม่กำหนดยอดเงินขั้นต่ำในการยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธ์ ถึงกระนั้นการเรียกร้องสิทธิ์ที่มียอดต่ำกว่า 250 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จะพิจารณาด้วยสมาชิกของคณะกรรมการเพียงหนึ่งคนเท่านั้น การเรียกร้องสิทธิ์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 250 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จะได้รับการพิจารณาจากสมาชิกคณะกรรมการอย่างน้อยสามคน
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”มีการการันตีหรือไม่ ว่าลูกค้าจะไม่เรียกร้องสิทธิ์ขอคืนความสูญเสียจากการซื้อขายที่ขาดทุนของตนเองในตลาด” start=”hide”]แน่นอนว่ามี ก่อนที่การเรียกร้องสิทธิ์ทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการการเงิน จะต้องผ่านการพิจารณาจากโบรกเกอร์ก่อน หากคณะกรรมาธิการพบเห็นการใช้สิทธิ์ที่ไม่ซื่อตรงจากฝ่ายของลูกค้าคนใดคนหนึ่ง คณะกรรมาธิการจะพยายามติดต่อพูดคุยกับลูกค้าและสมาชิก เพื่อให้ทราบที่มาของปัญหาที่แน่ชัด และทำการร้องเรียน นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการการเงินยังมีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธการเรียกร้องสิทธิ์ใหม่ หากคณะกรรมาธิการเห็นว่าลูกค้ามีเจตจำนงจะทำให้ระบบเสียหาย
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”ยอดขั้นต่ำในการยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธิ์คือเท่าไหร่” start=”hide”]คณะกรรมาธิการการเงินไม่กำหนดยอดเงินขั้นต่ำในการยื่นเรื่องเรียกร้องสิทธ์ ถึงกระนั้นการเรียกร้องสิทธิ์ที่มียอดต่ำกว่า 250 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จะพิจารณาด้วยสมาชิกของคณะกรรมการเพียงหนึ่งคนเท่านั้น การเรียกร้องสิทธิ์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 250 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จะได้รับการพิจารณาจากสมาชิกคณะกรรมการอย่างน้อยสามคน
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”มีการการันตีหรือไม่ ว่าลูกค้าจะไม่เรียกร้องสิทธิ์ขอคืนความสูญเสียจากการซื้อขายที่ขาดทุนของตนเองในตลาด” start=”hide”]แน่นอนว่ามี ก่อนที่การเรียกร้องสิทธิ์ทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการการเงิน จะต้องผ่านการพิจารณาจากโบรกเกอร์ก่อน หากคณะกรรมาธิการพบเห็นการใช้สิทธิ์ที่ไม่ซื่อตรงจากฝ่ายของลูกค้าคนใดคนหนึ่ง คณะกรรมาธิการจะพยายามติดต่อพูดคุยกับลูกค้าและสมาชิก เพื่อให้ทราบที่มาของปัญหาที่แน่ชัด และทำการร้องเรียน นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการการเงินยังมีสิทธิ์ที่จะปฎิเสธการเรียกร้องสิทธิ์ใหม่ หากคณะกรรมาธิการเห็นว่าลูกค้ามีเจตจำนงจะทำให้ระบบเสียหาย
[/dropdown_box]

[dropdown_box expand_text=”กองทุนชดเชยคืออะไรและทำงานอย่างไร” start=”hide”]กองทุนชดเชยเป็นกองทุนประกันสำหรับลูกค้า ยอดเงินของกองทุนจะถูกเก็บไว้ในบัญชีธนาคารต่างหาก และจะนำออกมาใช้ก็ต่อเมื่อสมาชิกปฏิเสธที่จะทำตามคำตัดสินของของคณะกรรมาธิการในส่วนของการเรียกร้องสิทธิ์ของลูกค้า

กองทุนชดเชยนี้มาจากคณะกรรมาธิการการเงิน โดยแบ่ง 10% จากค่าสมาชิกรายเดือนเข้าสู่กองทุน กองทุนชดเชยครอบคลุมเพียงการตัดสินในวงเงิน 20,000€ สำหรับลูกค้าหนึ่งคนจากบริษัท-สมาชิก ประเภท A และในวงเงินไม่เกิน 5000€ สำหรับลูกค้าหนึ่งคนจากบริษัท-สมาชิก ประเภท B

กองทุนชดเชยใช้ในการจ่ายค่าชดเชยตามการเรียกร้องสิทธิ์ที่ได้รับการพิจารณาโดย๕คณะกรรมาธิการเท่านั้น หากยอดเงินไม่เพียงพอเนื่องจากมีผู้ยื่นเรียกร้องสิทธิ์ไม่พึงประสงค์ต่อบริษัท-สมาชิกจำนวนมาก ยอดที่มีในขณะนั้นจะถูกแบ่งให้แก่ผู้ยื่นคำร้องทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน
[/dropdown_box]